วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558

Trading log 1/4/2015 EURUSD

entry date1/4/2015
exit date1/4/2015
Direction                                                                          Buy
product                              EURUSD
lots0.01
risk/reward                                   1:1
margin100%
entry1.07875
target1.08165
stoploss1.07617
strategy                                bridge
reasonprice try to build basement and break it through up resistance bridge and re-create bridge again I'm decided to entry bias long
success           
FAIL buy at weak point
memo try again, T_T

Entry.

Exit.

Trading log 31/3/2015 GBPCHF

entry date 31/3/2015
exit date 2/4/2015
Direction                                                                           Buy
product                               GBPCHF
lots 0.01
risk/reward                                    1:1
margin 100%
entry 1.44261
target 1.46647
stoploss 1.41992
strategy                                 bridge
reason price break out bridge no barrier level look in the picture
success            
FAIL price drop to bridge again
memo
Entry .

Exit.

วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2558

การเทรด Bridge

จั่วหัวใว้ก่อน ขอเก็บรายละเอียดจากคุณต้าน (แอบดูที่คุณต้านเค้าเทรดแล้วสรุปเอาเอง)
ได้เวลาสรุปสักที
ตามภาพเลยครับการเทรด Bridge
1.Trade on complete bridge Only..
2.Practice time decide about risk/reward ratio = 1:1 first.
3.minimum on practicing >250 Hrs.
4.try to deep in momentum of market with bridge.
5.when you decide to entry must have setup stoploss and takeprofit immediately.
6.timeframe : 1H - Day.
7. imagination in graphic don't use money outcome to define entry,stop,exit

Tips : ถนนโล่งดีกว่าถนนที่มีรถติด

จบแค่นี้ก่ออนเก็บรายละเอียดเพิ่มได้ค่อยว่ากัน

แปลเอกสารเงื่อนไขการฝึกเพื่อเป็นเทรดเดอร์ของ BluePoint โอกาศจาก Mudley ขอขอบคุณ(ผมยังไม่ได้สมัครเลยขอทำใจก่อน)

ระเบียบการการขอเข้าเป็นเทรดเดอร์ฝึกหัด
1. เทรดได้เฉพาะสินค้าที่อยู่ใน Instrument List(เอกสาร Instrument List) เท่านั้น
2. เทรดแต่ละครั้งต้องกำหนดจุด Stoploss เสมอดูตารางการตั้งStoploss ใน Instrument List
3. Lot sizes ไม่ถูกนำมาพิจารณา Blue Point Trading ดูจาก Pips ที่ได้กำไร และการถือ Position ที่ไม่เกิน 2 ในแต่ละช่วงเวลา ในทุกๆ Lotsize และ ทุกๆ Instrument
4. การเทรดจะต้องพิจรณาเรื่อง Drawdown ใม่ให้เกิน 300 Pips ต่อเดือน
5. Slippage จะเป็นส่วนที่ Broker เพิ่มเข้ามาเพื่อป้องกันความเสี่ยงสำหรับการเทรดแบบ Scraping สั้นๆที่ไม่ทำกำไรดูได้จาก Instrument List
6. ค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนครั้งแรกจะถูกเรียกเก็บเมื่อเริ่มเข้าร่วมโครงการ สามารถดูได้จาก Trading Floor ที่คุณได้ลงทะเบียนไว้ ซึ่งสำหรับประเทศไทย ควร(ไม่สิต้องผ่านทาง Mudley) เพื่อความเป็นมาตรฐานต่อๆไป เนื่องจากมีเทรดเดอร์บางคนข้ามขั้นตอนที่ควรเป็น ไม่ขอพูดถึงนะ ถือว่าคนเหล่านั้นเลือกที่จะเดินเส้นทางแบบนั้นเอง ผมขอสมัครผ่าน Mudley (ลิ้งสำหรับติดต่อ Mudley Thailand )ก็แล้วกัน แต่ตอนนี้ขอเตรียมตัวก่อนครับ
ข้อ6ต่อ บาง Trading Floor อาจจะมีทั้ง บัญชีแบบ Standard และ Pro หลังจากเลือกสมัครแล้วไม่สามารถเปลี่ยนได้ แต่สามารถสมัครมากกว่า1บัญชีได้
7. ทาง Blue Point Trading ต้องการคนที่มีความเป็นมืออาชีพ

สำหรับสามเดือนแรกแห่งการเริ่มต้นโปรแกรม
1. Trader ต้องทำเป้ากำไรให้ถึง 300 pips ต่อเดือน เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนและเพื่อการได้สิทธิเทรดในเดือนต่อๆไปหากทำไม่ได้ ต้องลงทะเบียนใหม่เพื่อเริ่มโปรแกรมใหม่
2. สำหรับการเป็นเทรดเดอร์ฝึกหัด 3 เดือนแรกจะได้ผลตอบแทนตามตารางด้านล่างนี้
ตารางนี้ได้ตัดมาจากเอกสารของ BluePointตามลิงค์ด้านล่างนี้
เอกสารต้นฉบับ

วิธีคำนวนผลตอบแทน : ถ้าเทรดเดอร์ทำกำไรได้ 40 pips ในการเทรดสินค้าที่อยู่ใน Instrument List โดยใช้ Slippage 2 pips สูตรคำนวนในช่วงสามเดือนแรกสำหรับ Standard Account  คือ 40pips-2pips(slippage) = 38 pips หรือ $38 หากมีการเทรด2Postion ในเวลาเดียวกัน ก็จะได้เพิ่มเป็น2เท่าเป็น $76(ตรงนี้ผมแปลตามที่เข้าใจไม่ค่อยเคลียเท่าใหร่) และสำหรับบัญชีแบบ Pro ผลตอบแทนก็จะเป็นสองเท่าตามไปด้วย
ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
1. หลังจากที่ผ่านการเทรดช่วง3เดือนเป็นเทรดเดอร์ฝึกหัดมาแล้ว ก็จะถูกบรรจุเป็นเทรดเดอร์ของ

Blue Point Trading

 และจะได้รับโอกาสในการเลื่อนระดับเป็นเทรดเดอร์ที่ระดับสูงอย่างต่อเนื่องต่อไป
และตารางต่อไปนี้เป็นผลตอบแทนของเทรดเดอร์ที่ผ่านการเป็นเทรดเดอร์ฝึกหัดมาแล้ว
ตารางนี้ได้ตัดมาจากเอกสารของ

Blue Point Trading

ตามลิงค์ด้านล่างนี้
เอกสารต้นฉบับ
2.ไม่ต้องทำเป้า 300 pips ต่อเดือน แต่หากต้องการก้าวหน้าในตำแหน่ง ต้องการเลื่อนระดับผลตอบแทน เลื่อนระดับของตัวเองต้องทำให้ได้ 300pips ต่อเนื่องติดต่อกัน 3 เดือน ต่อ1ระดับถัดไป
3. เทรดเดอร์จะได้รับการจ่ายผลตอบแทนไม่ว่าจะทำเงินถึงเป้า 300pips หรือไม่
4. บัญชีการเทรดห้ามติดลบในแต่ละรอบเดือน และห้ามเทรดผิดเงื่อนไขของโปรแกรม 7 ข้อด้านบน สำหรับบัญชีที่ติดลบมีทางแก้คือ จ่ายเงินส่วนที่เสียตามระดับของเทรดเดอร์เอง -10pips : Standard Account : Trader --> จ่าย $20 ตามนั้น

ลิ้งสำหรับติดต่อ Mudley Thailand
ติดตามเพจนี้สำหรับความคืบหน้า
ข้อความทั้งหมดนี้เกิดจากการแปลตามความเข้าใจ หากผิดพลาดประการไดโปรดแจ้งเพื่อทำการแก้ไข ขอยกความดีทั้งหมดให้แด่ คุณต้าน Mudley group ผู้จุดประกายการอยากเป็นเทรดเดอร์ในตัวผม

วันอาทิตย์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2558

บันทึกทั่วไป

วันนี้กลับมาเริ่มบันทึกข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการเทรดใหม่อีกครั้ง คิดว่าจะต้องทำอีกหลายอย่างเลย
สิ่งที่ทำในวันนี่้
1.ทำตารางการทำงานประจำวัน ในแต่ละช่วงเวลา
2.เริ่มกลับมาบันทึกค่าใช้จ่ายประจำวันอีกครั้ง
3.Trading Logs สำหรับ Forex บน Excel

คาดว่าจะทำ
1.ตารางงีบ(Nap)
2.ตารางออกกำลังกาย

ความรู้วันนี้
1.ดูวีดีโอสอนของ Mudley group กับ C-Way จนจบปัจจุบัน
2.หาข้อมูลของ Macro Economic
   2.1 วีดีโอสอน เรดาลิโอ (เคยดูแล้ว) ต้องดูอีก
https://www.youtube.com/watch?v=PHe0bXAIuk0
   2.2 เว็บที่ให้ข้อมูล(สรุปใว้ที่บทความก่อนหน้า)
http://www.forextell.com/how-to-be-a-global-macro-currency-trader/ รออ่าน

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เริ่มทำทันที วัดผลภายใน สองเดือน

เริ่มเทรด เริ่มใหม่

อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ


ซึ่งปัจจัยที่ทำให้กราฟ Demand และ Supply Shift ไปก็จะมีดังนี้

  • อัตราดอกเบี้ย : ถ้าอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศสูงกว่าในประเทศ เงินก็จะไหลออกต่างประเทศมากขึ้น (เพราะได้ผลตอบแทนดีกว่า) ส่วนคนต่างประเทศก็จะเอาเงินมาฝากในประเทศเราน้อยลง => Supply ก็จะมากขึ้น ส่วน Demand ลดลง => ทำให้ค่าเงิน ในประเทศอ่อน
  • --ดอกเบี้ยของ US, EU, AU, ==??
  • --จะมีการปรับขึ้นรึปรับลงใหมในระยะที่จะทำการเทรด
  • ภาวะเงินเฟ้อ : ถ้าเงินในประเทศเฟ้อมากกว่าต่างประเทศ สินค้าที่ส่งออกของประเทศที่เงินเฟ้อสูงนั้นจะมีราคาแพง และการนำเข้าจะน่าดึงดูดใจมากกว่า ทำให้เงินไหลออกต่างประเทศมากขึ้น เงินเข้าประเทศน้อยลง => Supply ก็จะมากขึ้น ส่วน Demand ลดลง => ทำให้ค่าเงิน ในประเทศอ่อน
  • --เงินเฟ้อของ US, EU, AU, ==??
  • --ของถูก ของแพง ค่าเงินในประเทศเวลาซื้อของได้เหมือนเดิมใหม ดูที่ http://www.numbeo.com/
  • รายได้ : ถ้ารายได้ของคนในประเทศพุ่งสูงขึ้นมากกว่าต่างประเทศ คนในประเทศก็จะมีการนำเข้าสินค้ามากขึ้น และคนต่างประเทศก็จะซื้อสินค้าจากประเทศเราน้อยลง ทำให้ เงินไหลออกต่างประเทศมากขึ้น เงินเข้าประเทศน้อยลง => Supply ก็จะมากขึ้น ส่วน Demand ลดลง => ทำให้ค่าเงิน ในประเทศอ่อน
  • --รายได้ต่อหัวของ US, EU, AU, ==??
  • --การจ้างงานในแง่นโยบายเป็นเช่นไร
  • มุมมองในการลงทุน : ถ้าการลงทุนในต่างประเทศดูน่าสนใจกว่าในประเทศ เงินไหลออกต่างประเทศมากขึ้น เงินเข้าประเทศน้อยลง => Supply ก็จะมากขึ้น ส่วน Demand ลดลง => ทำให้ค่าเงินในประเทศอ่อน
  • --มุมมองของการลงทุนน่าลงทุนใน US, EU, AU, ==?? หรือยัง
  • การคาดการและเก็งกำไร : ถ้ามีการคาดการณ์ว่าเงินในประเทศจะอ่อนค่าลงในอนาคต คนที่คาดการณ์เหล่านั้นก็จะขายเงินสกุลนั้นออกมาทันทีเลยก่อนที่จะอ่อนลงจริงๆ ทำให้ Supply มากขึ้น => ทำให้ค่าเงิน ในประเทศอ่อนในที่สุด
  • --การคาดการและเก็งกำไร US, EU, AU, ==??
ขอขอบคุณบทความจาก
http://www.siraekabut.com/2010/03/macroeconomics-summary-part1/

Trading log 30/12/2021

30/12/2021 Data Updated Daily Transactions = updated Stock Volumes   = updated OI Futures = updated OI Options = updated Volatility Surface ...